วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาเหมืองกุง


               หมู่บ้านเหมืองกุง มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่จากรุ่นสู่รุ่นเล่าว่าบรรพบุรุษของตนเองที่มาตั้งรกรากปักฐานอยู่ ณ หมู่บ้านเหมืองกุงแห่งนี้เป็นคนเผ่าไท ซึ่งถูกกวาดต้อนมาจากเมืองปุ เมืองสาด รัฐเชียงตุง ซึ่งหนีจากการถูกทหารพม่ารุกรานได้มาอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ ปัจจุบันอยู่ในเขตรัฐฉานของประเทศพม่า โดยอพยพมาเพียง 6 ครัวเรือน ( ปัจจุบันที่เมืองปุ เมืองสาดยังคงมีชาวบ้านที่มีวิถีชีวิตแบบชาวบ้านเหมืองกุงยังคงมีอยู่ ) จากคำบอกเล่าดังกล่าวได้สอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรต่าง ๆ เช่นตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ พงศาวดารโยนกและข้อมูลจากป๊บกระดาษสาต่างๆ กล่าวถึงการเกณฑ์กำลังคนจากพม่าและสิบสองปันนามาสู่อาณาจักรล้านช้างหลายครั้ง ถึงยุคฟื้นฟูเชียงใหม่หลังจากที่ตกอยู่ในอำนาจพม่าเป็นเวลานานกว่า 2 ศตวรรษ ในปีระหว่าง พ.ศ. 2325 – 2356 สมัยพระเจ้ากาวิละแห่งต้นตระกูลเจ้าเจ็ดตนขึ้นครองเมืองเชียงใหม่ บรรพบุรุษของบ้านเหมืองกุงได้ถูกกวาดต้อนมาให้ตั้งรกราก ณ ที่ปัจจุบันแห่งนี่ร่วม 200 กว่าปี โดยให้ทำนาเพื่อนำผลผลิตคือ ข้าวเปลือกส่งให้แก่เจ้ากาวิโรรสสุริยวงค์ ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้ากาวิละเจ้าเมืองเชียงใหม่ บริเวณที่นาของเจ้าเมืองจะอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านเหมืองกุง พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว ชาวบ้านก็จะนำข้าวเปลือกบรรทุกล้อวัวเทียมเกวียนไปส่งที่คุ้มเจ้าเมืองในตัวเมืองเชียงใหม่ หมดจากฤดูทำนาจากอาชีพที่ติดตัวมาคือ ช่างปั้น เช่น น้ำต้น ( คนโฑ ) หม้อน้ำ สำหรับไว้ใส่น้ำดื่มน้ำใช้หรือขายเป็นรายได้จุนเจือครอบครัวและใช้ในพุทธศาสนพิธีเป็นสังฆทานถวายวัด เป็นวิถีชีวิตที่สืบต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน

        หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่มีการทำเครื่องปั้นดินเผากันแทบทุกหลังคาเรือน ชาวบ้านที่นี่ยึดอาชีพการทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอาชีพหลัก  ถ้าเดินตามถนนคอนกรีตเล็กๆ ในหมู่บ้านจะพบเห็นหม้อดินเผาหลายชนิดหลายขนาด ทั้งแจกัน กระถางและอื่นๆ ตากเรียงรายอยู่กลางลานบ้าน นอกจากนั้นใต้ถุนบ้านยังมีผู้เฒ่าผู้แก่ต่างช่วยกันตกแต่งหม้อน้ำดินเผาอย่างขะมักเขม้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ หม้อน้ำที่มีปากแคบ ตรงกลางปล่อง ก้นสอบและมีฝาปิด บริเวณไหล่หม้อน้ำจะมีการแกะลวดลายอย่างสวยงาม (ข้อมูลจากการทำวิจัยของอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2527 – 2528) ปัจจุบันบ้านเหมืองกุงได้รับการจัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านหัตถกรรม OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เมื่อปี พ.ศ. 2538 ทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวตลอดจนมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง สัญลักษณ์ที่โดดเด่น มีคนโฑขนาดใหญ่ สูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 9 เมตร อยู่ทางแยกไป อ.สะเมิง


ที่มา : thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม/รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว/หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาเหมืองกุง--3953

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น